การขุดค้นพบตุ๊กตาหินโดยบังเอิญในพื้นที่พระราชวังหลวง ระหว่างกำแพงวังกับกำแพงวัดพระแก้ว ราว 130 ชิ้น เมื่อกรกฎาคม 2564 โดยเปิดเผยข่าวและจัดแสดง 33 ชิ้นเมื่อกลางกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ได้สร้างความสนใจให้ประชาชนอย่างมากกว่า สร้างเมื่อไหร่ แกะสลักหินอ่อนกันที่ไหน เป็นอับเฉาหรือไม่ ฯลฯ และคำถามท้ายสุดคือ เอาไปฝังเมื่อไหร่ ทำไมต้องฝังดิน
(อ่าน นักประวัติศาสตร์ถอดรหัส ‘ตุ๊กตาหินวัดพระแก้ว’ ย้อนปากคำ ‘คาร์ล บ็อค’ ครั้ง ร.5)
วันนี้ เราทราบแล้วว่า การสร้างตุ๊กตาหินนั้นก็เพื่อนำมาประดับโดยรอบบริเวณวัดพระแก้วในวาระฉลอง 100 ปีรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นงานที่ยิ่งใหญ่งานแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 ปี 2425 ซึ่งมีพิธีเปิดพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท อาคารฝรั่งผสมกับยอดปราสาท และโครงการสร้างอาคารมหึมาที่ชื่อว่า กระทรวงกลาโหม อาคารตึกสี่เหลี่ยมแบบป้อมปราการสูงสามชั้นขนาดใหญ่ที่สุดในพระนคร
ไกรฤกษ์ นานา ได้สรุปจากการสืบค้นเอกสารว่าภาพและบันทึกข้อเขียนของฝรั่งที่ได้มาเยือนวัดพระแก้วที่กล่าวถึงตุ๊กตาหินคนท้ายสุดนั้นปรากฏอยู่ในงานของ แฟรง จี. คาร์เพนเตอร์ หนังสือชื่อ Carpenter’s World Travels (การเดินทางรอบโลกของคาร์เพนเตอร์) พิมพ์ปี 1926 (พ.ศ. 2469) หลังจากนั้นก็ไม่พบการกล่าวถึงตุ๊กตาหินเหล่านี้อีกเลย
ทว่า เมื่อมีการขุดพบอีกครั้งและนำบางส่วนมาจัดแสดงภายในบริเวณลานวัดพระแก้ว ก็เริ่มมีเสียงเล่าลือว่า พวกคณะราษฎรเป็นผู้เอาตุ๊กตาหินเหล่านี้ไปฝังดิน นัยหนึ่งของคำอธิบายที่ซ่อนเร้นนี้คือ พวกคณะราษฎรเป็นเสมือนผู้จ้องทำลายสิ่งต่างๆ ของฝ่ายระบอบเก่า แต่เมื่อใคร่ครวญพิจารณาโดยตรรกะเหตุผล ถ้าเป็นฝีมือของคณะราษฎรหลังปฏิวัติ 2475 จริง เมื่อมีการล้มคณะราษฎรลงไปเมื่อปี 2490 นั้น ฝ่ายเจ้านายที่คุ้นเคยกับวัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวัง เช่น หม่อมเจ้าธานีนิวัติ ซึ่งเป็นเสนาบดีกระทรวงธรรมการ (ศึกษาธิการ) ตลอดสมัยรัชกาลที่ 7 ยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และตั้งแต่กลางทศวรรษ 2490 ก็ได้เป็นประธานองคมนตรีสมัยรัชกาลที่ 9 มายาวนาน ได้รับสถาปนาเป็น พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร พบว่า ไม่มีข้อเขียนของปัญญาชนเจ้านายองค์นี้เขียนเกี่ยวกับการหายไปของตุ๊กตาหินเหล่านี้แต่ประการใด
แม้แต่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ผู้แต่งนิยายสี่แผ่นดินในกลางทศวรรษ 2490 นี้ ทั้งเป็นผู้มีข้อมูลและความจำที่ดีเกี่ยวกับเรื่องวังเรื่องเจ้านายทั้งหลายนั้น ก็ไม่ปรากฏว่าจะกล่าวถึงตุ๊กตาหินเหล่านี้แต่อย่างใด
เพราะหากคณะราษฎรได้นำตุ๊กตาหินเหล่านี้ไปฝังจริง ก็คงไม่รอดพ้นจากสายตาและการรื้อฟื้นนำกลับคืนมาของทั้งสองท่านนี้อย่างแน่นอน
สรุปคือ การนำตุ๊กตาหินไปฝังดินไม่เกี่ยวข้องกับคณะราษฎรอย่างแน่นอน และไม่น่าจะเกิดหลังจากปีปฏิวัติ 2475
ดังนั้น เป็นไปได้ว่า ตุ๊กตาหินวัดพระแก้วถูกย้ายและนำไปฝังดินเกิดขึ้นในระหว่างปี 2470-2474 ในสมัยพระปกเกล้าฯ รัชกาลที่ 7 ซึ่งก็สอดคล้องกับการมีการปฏิสังขรณ์วัดพระแก้วครั้งใหญ่อีกครั้งเพื่อฉลอง 150 ปีกรุงรัตนโกสินทร์ปี 2475
ถ้าเราจะนึกถึงมรดกงานฉลอง 150 ปีกรุงรัตนโกสินทร์ 6 เมษายน 2475 นั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือสะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นสะพานเหล็กที่เปิดยกตรงกลางให้เรือใหญ่ผ่านได้ เพื่อเชื่อมฝั่งพระนครกับจังหวัดธนบุรี ทั้งยังมีปฐมบรมราชานุสรณ์สำริดขนาดใหญ่มากที่ฝั่งกรุงเทพฯ และยังมีโครงการภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ในระเบียงคตวัดพระแก้วที่วาดขึ้นใหม่ในช่วงปี 2472-2474
ดังนั้น ในวาระฉลอง 150 ปีกรุงรัตนโกสินทร์จึงเป็นวาระอันดีในการปรับเปลี่ยนจัดย้ายสิ่งต่างๆ ในวัดพระแก้ว
สอดคล้องกับเอกสารในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 48 หน้า 470 วันที่ 11 พฤษภาคม 2474 ที่คณะกรรมการตรวจงบบัญชีเงินรับ เงินจ่าย และเงินคงทุนสำหรับปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในรอบ 6 เดือนของครึ่งปีหลังของปี 2473 รายจ่ายในรอบครึ่งปีนี้ จ่ายมากสุดเกี่ยวกับค่าเขียนภาพผนังและทำรั้วเหล็กกั้นภาพในวิหารคตถึง 19,353 บาท รองลงมาคือการซ่อมและเขียนภาพผนังในหอมณเฑียรธรรม 17,650 บาท และซ่อมพระอุโบสถ 16,420 บาท
หากพิจารณารายการจ่ายเงิน เห็นได้ว่า วัดพระแก้วได้รับการซ่อมแซมใหม่ไปทุกจุด และมีรายการหนึ่งระบุว่าเป็น “ค่ารื้อย้ายตุ๊กตา กะถางต้นไม้ และแท่นหินเป็นต้น” เป็นเงิน 431 บาท
การปฏิสังขรณ์ยังมีต่อเนื่องมาถึงปี 2474 เห็นได้ว่า ยังมีเงินเหลืออีกเกือบสี่แสนบาทสำหรับการปฏิสังขรณ์ต่อไป
ในเอกสารระบุว่าผู้ที่เป็นนายคลังเงินคือ เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ (ม.ร.ว.มูล ดารากร) ได้เป็นอธิบดีกรมพระคลังข้างที่ตั้งแต่ปี 2464 สมัยรัชกาลที่ 6 และยังดำรงตำแหน่งนี้ตลอดสมัยรัชกาลที่ 7
กรมพระคลังข้างที่คือหน่วยงานที่ดูแลทรัพย์สมบัติของพระมหากษัตริย์ ดังนั้น การใช้จ่ายเงินในการซ่อมแซมรื้อย้ายในการปฏิสังขรณ์วัดพระแก้วครั้งนี้ย่อมอยู่ในการกำกับของสำนักพระราชวังอย่างชัดเจน และยังเปิดเผยค่าใช้จ่ายรายรับรายจ่ายผ่านประกาศในหนังสือราชกิจจานุเบกษาด้วย
สรุป เอกสารนี้ชี้ชัดว่าตุ๊กตาหินถูกรื้อย้ายออกจากบริเวณวัดพระแก้วในช่วงเดือนตุลาคม-มีนาคม 2473 (เปลี่ยนปีศักราชวันที่ 1 เมษายน) (ขอขอบคุณเอกสารจากคุณ Chatuwat Wong)
ทำไมจึงเอาตุ๊กตาหินมากถึงราว 130 ชิ้นไปฝังดิน
กิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร ให้คำอธิบายว่า “การจัดเก็บโบราณวัตถุแบบฝังดินไว้นั้นเป็นเรื่องปกติ”
แต่ผมอยากเทียบกับการเอาปืนใหญ่โบราณฝั่งดินในสมัยรัชกาลที่ 5 เช่นที่ขุดพบปืนใหญ่วังหน้าที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อปี 2527 สิบกว่ากระบอก เมื่อครั้งมีการขุดดินสร้างประตูแบบโบราณด้านหน้าของธรรมศาสตร์ขึ้นมาใหม่ ปืนใหญ่แบบใส่ดินปืนและลูกปืนจากด้านหน้ากระบอกที่ใช้กันมานานนั้น (เช่นปืนใหญ่ที่จัดแสดงหน้ากระทรวงกลาโหม) ได้ถูกแทนที่ด้วยปืนใหญ่แบบใหม่ที่ใส่ลูกทางท้ายกระบอก ดังนั้น เมื่อปืนใหญ่โบราณไร้ประโยชน์และมีจำนวนมาก วิธีที่ทำให้หายไปที่ดีที่สุดและง่ายที่สุดคือฝั่งไว้ใต้ดิน
ด้วยแนวคิดเปรียบเทียบดังกล่าว
ดังนั้นจึงอาจเป็นไปได้ว่า ตุ๊กตาหินจำนวนมากราว 130 ชิ้นเมื่อครั้งฉลอง 100 ปีรัตนโกสินทร์ ไม่สอดคล้องกับทัศนะความงามของยุคสมัยหรือถูกพิจารณาว่ามีคุณค่าน้อยลงเมื่อถึงงานฉลอง 150 ปีรัตนโกสินทร์ ดังนั้น ทางฝ่ายราชสำนักสมัยรัชกาลที่ 7 จึงนำไปรักษาไว้ด้วยการฝังดินภายในกำแพงพระราชวังหลวงเมื่อปี 2473
—–
เชิญเที่ยว บางกอก Walking Tour อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย – วัดสุทัศน์ เดินเที่ยวย่านศูนย์กลางอำนาจทางการเมือง 4 แบบ พุทธ พราหมณ์ การเมืองระดับชาติ การเมืองท้องถิ่นกรุงเทพฯ บนถนนราชดำเนินและถนนดินสอ เส้นทาง 750 ม.
จัดโดย กลุ่มกรุงเทพศึกษา และกลุ่ม Young Citizen เสาร์ 20 สิงหาคม 2565 : 13.00-15.30 วิทยากร รศ.ดร.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ อ.สฏฐภูมิ บุญมา ค่าสมัคร 300฿ นักเรียนนักศึกษา 75฿ สมัครได้ที่ ID Line : golf.youngcitizen
(อ่าน หน่วยราชการในพระองค์ เผยแพร่ข้อมูลการขุดพบประติมากรรมหินสลัก ในวัดพระแก้ว)